Thai Quran | อ่านอัลกุรอาน

Chapter 26 (Sura 26)
1; ฏอ ซีน มีม
2; เหล่านี้คือโองการทั้งหลายอันชัดแจ้ง
3; บางทีเจ้า (มุฮัมมัด) เป็นผู้ทำลายชีวิตของเจ้า เพราะพวกเขาไม่เป็นผู้ศรัทธา
4; หากเราประสงค์ เราจะให้มีสัญญาณหนึ่งจากฟากฟ้ามายังพวกเขา แล้วคอของพวกเขาก็ยอมก้มลมต่อมัน
5; และไม่มีข้อตักเตือนใหม่ อันใดจากพระผู้ทรงกรุณาปราณี เว้นแต่พวกเขาจะผินหลังให้กับมัน
6; แล้วแน่นอนพวกเขาได้ปฏิเสธ ดังนั้นข่าวคราวที่พวกเขาเคยเยาะเย้ยมันนั้นก็จะมายังพวกเขา
7; พวกเขามิได้มองไปยังแผ่นดินดอกหรือว่ากี่มากน้อยแล้วที่เราได้ให้มันงอกเงยออกมาจากทุกชนิดที่ดีมีประโยชน์
8; แท้จริงในการนี้ย่อมเป็นสัญญาณหนึ่งอย่างแน่นอน แต่ส่วนมากของพวกเขาไม่เป็นผู้ศรัทธา
9; และแท้จริงพระเจ้าของเจ้านั้น แน่นอนพระองค์เป็นผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงเมตตาเสมอ
10; และจงรำลึก เมื่อพระเจ้าของเจ้าทรงเรียกมูซาว่า จงไปยังหมู่ชนผู้อธรรม
11; คือหมู่ชนของฟิรเอาน์ พวกเขาไม่ยำเกรงดอกหรือ?
12; เขา (มูซา)กล่าวว่า โอ้พระเจ้าของฉันแท้จริงฉันกลัวว่า พวกเขาจะปฏิเสธไม่ยอมเชื่อฉัน
13; และหัวอกของฉันจะอึดอัด และลิ้นของฉันจะไม่คล่อง ดังนั้นพระองค์ทรงโปรดส่งฮารูนมาช่วยฉันด้วยเถิด!
14; และพวกเขามีข้อกล้าวหาต่อฉัน ดังนั้นฉันกลัวว่าพวกเขาจะฆ่าฉัน
15; พระองค์ตรัสว่า ไม่ดอก! ดังนั้นเจ้าทั้งสองจงไปเถิดพร้อมด้วยสัญญาณทั้งหลาย ของเราแท้จริงเราอยู่กับพวกเจ้า เป็นผู้ฟัง
16; ดังนั้นเจ้าทั้งสองจงไปหาฟิรเอาน์ แล้วจงกล่าวว่าเราเป็นทูตของพระเจ้าแห่งสากลโลก
17; แล้วขอให้ส่งวงศ์วานของอิสรออีลไปพร้อมกับเราเถิด
18; เขา(ฟิรเอาน์) กล่าวว่า เรามิได้เลี้ยงดูเจ้าเมื่อขณะเป็นเด็กอยู่กับพวกเราดอกหรือ? และเจ้าได้อยู่กับเราหลายปี ในช่วงชีวิตของเจ้า
19; และเจ้าได้ทำการกระทำของเจ้าซึ่งเจ้าได้กระทำไปแล้ว และเจ้าเป็นผู้หนึ่งในหมู่ผู้เนรคุณ
20; เขา (มูซา) กล่าวว่า ฉันได้กระทำมันโดยที่ฉันไม่รู้
21; ดังนั้น ฉันได้หนีไปจากพวกท่าน เมื่อฉันกลัวพวกท่านแล้วพระเจ้าของฉันได้ทรงประทานฮิกมะฮ์แก่ฉัน และทรงแต่งตั้งฉันให้เป็นร่อซูลคนหนึ่ง
22; และนี่คือบุญคุณที่ท่านรำเลิกมันต่อฉันโดยท่านทำให้วงศืวานอิสรออีลเป็นทาส
23; ฟิรเอาน์ได้กล่าวว่า “และใครคือพระเจ้าแห่งสากลโลก”
24; เขา(มูซา) กล่าวว่า “พระเจ้าแห่งชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน และสิ่งที่อยู่ในระหว่างทั้งสอง หากพวกท่านเป็นผู้ศรัทธาเชื่อมัน”
25; เขาได้กล่าวแก่ผู้อยู่รอบ ๆ เขาว่า “พวกท่านได้ยินไหม?”
26; เขา(มูซา)กล่าว่า “พระเจ้าของพวกท่าน และของบรรพบุรุษสมัยก่อน ๆ นั้นด้วย”
27; เขา (ฟิรเอาน์) กล่าวว่า “ทจริงร่อซูลของพวกท่านซึ่งได้ถูกส่งมายังพวกท่านนั้นเป็นคนบ้าอย่างแน่นอน”
28; เขา(มูซา) กล่าวว่า “พระเจ้าแห่งทิศตะวันออกและทิศตะวันตก และสิ่งที่อยู่ในระหว่างทั้งสอง หากพวกท่านใช้สติปัญญาพิจารณา
29; เขากล่าวว่า “หากเจ้ายึดถือพระเจ้าอื่นจากฉัน ฉันจะให้เจ้าอยู่ในหมู่ผู้ต้องขัง”
30; เขา(มูซา) กล่าวว่า “แม้ว่าฉันจะนำสิ่งที่ชัดแจ้งมายังท่านกระนั้นหรือ?”
31; เขากล่าวว่า “ก็จงนำมันมาซิ หากเจ้าเป็นคนจริง”
32; ดังนั้น เขาได้โยนไม่เท้าของเขามันคือ งูอย่าชัดแจ้ง
33; และได้ดึงมือของเขาออกมาเป็นสีขางแก่บรรดาผู้มองดู
34; เขาได้กล่าวแก่ขุนนางชั้นผู้ใหญ่รอบๆ เขาว่า “แท้จริงเขาคนนี้คือนักเล่นกลอย่างช่ำชอง
35; เขาต้องการที่ให้พวกท่านออกจากดินแดนของพวกท่านด้วยเล่ห์กลของเขา ดังนั้นพวกท่านจะชี้แนะประการใด”(*2*ป
36; พวกเขากล่าวว่า “จงหน่วงเหนี่ยวเขาและพี่ชายของเขาไว้ก่อน และจงส่งคนไปตามหัวเมืองให้มาชุมนุมกัน
37; เพื่อที่นักเล่นกลผู้ช่ำชองทุกคนจะได้มาหาท่าน”
38; แล้วบรรดานักเล่นกลได้มาชุมนุมกันตามวันเวลาที่กำหนดไว้
39; และได้มีประกาศแก่มหาชน พวกท่านจะไปร่วมชุมนุมด้วยไหม?
40; เพื่อพวกเขาจะได้ตามบรรดานักเล่นกลหากพวกเขาเป็นผู้ชนะ
41; เมื่อพวกนักเล่นกลมาถึง พวกเขากล่าวแก่ฟิรเอาน์ว่า “พวกเราจะมีรางวัลแน่นอนหรือถ้าพวกเราเป็นผู้ชนะ
42; เขากล่าวว่า “ถูกแล้ว และพวกท่านขณะนั้นจะอยู่ในหมู่ผู้ใกล้ชิดอย่างแน่นอน”
43; มูซาได้กล่าวแก่พวกเขาว่า “จงโยนซิสิ่งที่พวกท่านจะต้องโยน”
44; แล้วพวกเขาก็ได้โยนเชือกหลายเส้นของพวกเขาและไม้เท้าหลายอันของพวกเขา และพวกเขากล่าวว่า “ด้วยเกียติยศของฟิรเอาน์แท้จริงเราเป็นผู้ชนะอย่างแน่นอน”
45; ครั้นแล้วมูซาก็ได้โยนไม้เท้าของเขา ณ บัดนั้นมันได้กลืนสิ่งที่พวกเขาได้ลองมันขึ้น
46; พวกนักเล่นกลจึงก้มหัวลงกราบสุญูด
47; พวกเขากล่าวว่า “เราศรัทธาต่อพระเจ้าแห่งสากลโลก”
48; พระเจ้าของมูซา และฮารูน
49; เขากล่าวว่า พวกท่านศรัทธาต่อเขาก่อนที่ฉันจะอนุญาตแก่พวกท่านกระนั้นหรือ? แน่นอนเขาต้องเป็นหัวหน้าของพวกท่านซึ่งได้สอนการเล่นกลแก่พวกท่านแล้วพวกท่านจะรู้ แน่นอนฉันจะตัดมือของพวกท่านและเท้าของพวกท่านสลับข้างกันและแน่นอนฉันจะแขวนตรึงไว้ทั้งหมด
50; พวกเขากล่าวว่า ไม่เป็นไรหรอกแท้จริงเรานั้นต้องเป็นผู้กลับไปยังพระเจ้าของเรา
51; แท้จริงเราปรารถนาที่จะให้ พระเจ้าของเราทรงยกโทษแก่เรา เพราะเราเป็นกลุ่มแรกที่เป็นผู้ศรัทธา
52; แลเราได้ดลใจให้มูซาออกเดินทาง ในเวลากกลางคืนพร้อมกันกับปวงบ่าวของข้าแท้จริงพวกเจ้ากำลังถูกติดตาม
53; แล้วฟิรเอาน์ได้ส่งคนไปตามหัวเมืองต่างๆ ให้มาร่วมชุมนุม
54; (และว่า) แท้จริงเขาเหล่านั้นเป็นหมู่ชนส่วนน้อย
55; และแท้จริงพวกเขาทำให้เราเกิดโทษะ
56; และแท้จริงพวกเราทั้งหมดอยู่ในสภาพเตรียมพร้อม
57; ดังนั้น เราได้ให้พวกเขา ออกจากเรือกสวนและลำธารน้ำ
58; และทรัพย์สินอันมากมายหลายและที่พำนักอันโอ่อ่า
59; เช่นนั้นแหละ และเราได้ให้วงศ์วานอิสรออีล ได้รับมรดกครอบครองมัน
60; แล้วพวกเขา(ฟิรเอาน์) ได้ติดตามพวกเขา(วงศ์วานอิสรออีล) เมื่อเวลาตะวันขึ้น
61; ครั้นเมื่อแต่ละฝ่ายได้มองเห็นกัน พวกพ้องของมูซาได้กล่าวว่า “ท้จริงเราถูกตามทันแล้ว”
62; เขา (มูซา)ได้กล่าวว่า “ไม่หรอก แท้จริงพระเจ้าของฉันทรงอยู่กับฉัน พระองค์ทรงขี้แนะทางแก่ฉัน
63; ดังนั้นเราได้ดลใจมูซาว่า “จงฟาดทะเลด้วยไม้เท้าของเจ้า” แล้วมันก็ได้แยกออก แต่ละข้างมีสภาพเหมือภูเขาใหญ่
64; และเราได้ให้พวกอื่น ให้เข้ามาใกล้ ณ ที่นั้น
65; และเราได้ให้มูซาและผู้ที่ออยู่ร่วมกับเขาทั้งหมดรอดพ้นไป
66; แลเราได้ให้พวกอื่นจมน้ำตาย
67; แท้จริงในการนั้นเป็นสัญญาณอย่างแน่นอน แต่ส่วนมากของพวกเขาไม่เป็นผู้ศรัทธา
68; และแท้จริงพระเจ้าของเจ้านั้น แน่นอนพระองค์เป็นผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงเมตตาเสมอ
69; และจงเล่าเรื่องราวของอิบรอฮีม ให้แก่พวกเขา
70; ขณะที่เขากล่าวแก่บิดาของเขา และพวกพ้องของเขาว่า “พวกท่านเคารพภักดีอะไร?”
71; พวกเขากล่าวว่า “เราเคารพภักดีรูปปั้นแล้วเราจะคงเป็นผู้ยึดมั่นต่อมันตลอดไป”
72; เขา(อิบรอฮีม) กล่าวว่า “เมื่อพวกท่านวิงวอนขอ พวกมันได้ยินพวกท่านหรือ?”
73; “หรือมันให้คุณให้โทษแก่พวกท่านไหม?”
74; พวกเขากล่าวว่า “แต่เราได้พบบรรพบุรุษของเราปฏิบัติกันมาเช่นนั้น”
75; เขากล่าวว่า “พวกท่านไม่เห็นดอกหรือสิ่งที่พวกท่านเคารพภักดีอยู่”
76; ด้วยตัวของพวกท่านเอง และบรรพบุรุษของพวกท่านแต่กาลก่อน
77; แท้จริงพวกเขาคือศัตรูของฉัน นอกจากพระเจ้าแห่งสากลโลก
78; ซึ่งพระองค์ทรงสร้างฉัน แล้วพระองค์ทรงชี้แนะทางแก่ฉัน
79; และพรองค์ทรงประทานอาหารให้ฉันและทรงให้น้ำดื่มแก่ฉัน
80; และเมื่อฉันป่วย ดังนั้นพระองค์ทรงให้ฉันหายป่วย
81; และผู้ทรงให้ฉันตายแล้วทรงให้ฉันมีชีวิต
82; และผู้ที่ฉันหวังว่า จะทรงอภัยแก่ฉันซึ่งความผิดพลาดในวันแห่งการตอบแทน
83; ข้าแต่พระเจ้าของฉัน! ขอพระองค์ทรงประทานความรู้และทรงให้ฉันอยู่รวมกับหมู่คนดีทั้งหลาย
84; และทรงทำให้ฉันได้รับการรำลึกอย่างดีในหมู่ชนรุ่นต่อ ๆ ไป
85; และทรงทำให้ฉันอยู่ในหมู่ผู้รับมรดกแห่งสวนสวรรค์อันร่มรื่น
86; และทรงประทานอภัยให้แก่บิดาของฉันด้วย แท้จริงเขาอยู่ในหมู่ผู้หลงผิด
87; และทรงอย่าให้ฉันได้รับความอัปยศในวันที่พวกเขาถูกให้ฟื้นคืนชีพ
88; วันที่ทรัพย์สมบัติและลูกหลานจะไม่อำนวยประโยชน์ได้เลย
89; เว้นแต่ผู้มาหาอัลลอฮ์ด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์ผ่องใส
90; และสวนสวรรค์จะถูกนำให้มาใกล้แก่บรรดาผู้ยำเกรง
91; และนรกจะถูเผยให้เห็นแก่บรรดาผู้หลงผิดคิดชั่ว
92; และมีเสียงกล่าวแก่พวกเขาว่า ไหนเล่าที่พวกท่านเคารพภักดี
93; อื่นจากอัลลอฮ์ พวกมันจะช่วยเหลือพวกท่าน หรือจะช่วยตัวมันเองได้ไหม?
94; แล้วพวกมันจะถูกโยนทิ่มหัวลงไปในนรกพวกมันและพวกหลงผิด
95; และไพร่พลของอิบลิสทั้งหมด
96; พวกเขากล่าวขณะที่พวกเขาโต้เถียงกันอยู่ในนั้น
97; ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ แท้จริงพวกเราอยู่ในการหลงผิดอย่างชัดแจ้ง
98; ขณะที่พวกเราทำให้พวกเจ้าเท่าเทียมกับพระเจ้าแห่งสากลโลก
99; และไม่มีผู้ใดทำให้พวกเขาหลงผิด นอกจากพวกอาชญากร เท่านั้น
100; ดังนั้นจึงไม่มีผู้ไถ่โทษแก่เรา
101; และไม่มีมิตรผู้รักใคร่ด้วย
102; ฉะนั้น หากเราได้กลับไปสักครั้ง เราก็จะอยู่ในหมู่ผู้ศรัทธา
103; แท้จริงในการนี้ ย่อมเป็นสัญญาณหนึ่งอย่างแน่นอน แต่ส่วนมากของพวกเขา ไม่เป็นผู้ศรัทธา
104; และแท้จริงพระเจ้าของเจ้านั้น แน่นอนพระองค์คือผู้ทรงเดชานุภาพ ผู้ทรงเมตตาเสมอ
105; หมู่ชนของนูห์ ได้ปฏิเสธบรรดาร่อซูล
106; ขณะที่พี่น้องคนหนึ่งของพวกเขาคือ นูห์ได้กล่าวแก่พวกเขาว่า โอ้พวกท่านไม่ยำเกรงบ้างหรือ?
107; แท้จริงฉันคือร่อซูลผู้ซื่อสัตย์สำหรับพวกท่าน
108; ดังนั้นพวกท่านจงยำเกรงอัลลอฮ์ และเชื่อฟังฉัน
109; และฉันมิได้ขอค่าตอบแทนในการนี้จากพวกท่าน ค่าตอบแทนของฉันมิได้มาจากผู้ใดนอกจากพระเจ้าแห่งสากลโลก
110; ดังนั้นจงยำเกรงอัลลอฮ์เถิดและจงเชื่อฟังฉัน
111; พวกเขากล่าวว่า จะให้พวกเราศรัทธาต่อท่านกระนั้นหรือ? ในเมื่อพวกต่ำต้อยเท่านั้นที่เชื่อฟังปฏิบัติตามท่าน
112; เขา (นูห์) กล่าวว่า ฉันไม่มีความรู้อันใดเลยในสิ่งที่พวกเขาปฏิบัติกัน
113; การตอบแทนของพวกเขามิได้อยู่ที่ผู้ใดเลยนอกจากที่พระเจ้าของฉัน หากพวกท่านมีความรู้สึก
114; และฉันจะไม่เป็นผู้ขับไล่บรรดาผู้ศรัทธา
115; ฉันมิใช่ใครอื่นนอกจากเป็นผู้ตักเตือนอันชัดแจ้ง
116; พวกเขากล่าวว่า โอ้นูห์ หากท่านไม่หยุดยั้งแน่นอนท่านจะอยู่ในหมู่ผู้ถูกขว้างด้วยก้อนหิน
117; เขากล่าวว่า ข้าแต่พระเจ้าของฉัน แท้จริงหมู่ชนของฉันปฏิเสธฉัน
118; ดังนั้นขอพระองค์ทรงตัดสินระหว่างฉันกับพวกเขาโดยยุติธรรมเถิด และทรงโปรดช่วยฉัน และบรรดาผู้ศรัทธาที่อยู่ร่วมกับฉันให้รอดพ้นด้วยเถิด
119; ดังนั้นเราได้ช่วยเขาและผู้อยู่ร่วมกับเขาให้อยู่ในเรือที่เต็มเปี่ยม
120; แล้วเราได้ให้พวกที่เหลืออยู่จมน้ำตาย
121; แท้จริงในการนี้ย่อมเป็นสัญญาณหนึ่งอย่างแน่นอน แต่ส่วนมากของพวกเขาไม่เป็นผู้ศรัทธา
122; และแท้จริงพระเจ้าของสูเจ้านั้น แน่นอนพระองค์เป็นผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงเมตตาเสมอ
123; หมู่ชนของอ๊าดได้ปฏิเสธบรรดาร่อซูล
124; ขณะที่พี่น้องคนหนึ่งของพวกเขาคือฮูดได้กล่าวแก่พวกเขาว่า โอ้พวกท่านไม่ยำเกรงบ้างหรือ?
125; แท้จริงฉันคือ ร่อซูลผู้ซื่อสัตย์สำหรับพวกท่าน
126; ดังนั้นพวกท่านจงยำเกรงอัลลอฮ์ และเชื่อฟังฉัน
127; และฉันมิได้ขอค่าตอบแทนในการนี้จากพวกท่าน ค่าตอบแทนของฉันมิได้มาจากผู้ใดนอกจากพระเจ้าแห่งสากลโลก
128; พวกท่านสร้างอนุสาวรีย์ไว้บนที่สูงทุกแห่งเพื่อโอ้อวดกระนั้นหรือ?
129; และพวกท่านสร้างคฤหาสน์เสมือนกับว่าพวกท่านจะอยู่อย่างตลอดกาลกระนั้นหรือ?
130; และเมื่อพวกท่านทำร้าย(ผู้ใด) พวกท่านกระทำอย่างทารุณโหดร้าย
131; ดังนั้นพวกท่านจงยำเกรงอัลลอฮ์ และเชื่อฟังฉัน
132; และพวกท่านจงยำเกรงผู้ทรงประทานแก่พวกท่าน สิ่งซึ่งพวกท่านรู้ดีอยู่แล้ว
133; พระองค์ทรงประทานแก่พวกท่านด้วยปศุสัตว์และลูกหลาน
134; และสวนอันหลากหลาย และลำธารหลายแห่ง
135; แท้จริงฉันกลัวว่าพวกท่าน จะได้รับการลงโทษในวัน อันยิ่งใหญ่
136; พวกเขากล่าวว่า มีผลเท่ากันที่เรา ท่านจะตักเตือนหรือไม่เป็นผู้ตักเตือนเราก็ตาม
137; นี่ไม่ใช่อะไรอื่นนอนจากเป็นเรื่องโกหกในสมัยก่อน ๆ
138; และพวกเราจะไม่อยู่ในหมู่ผู้ถูกลงโทษ
139; พวกเขาได้ปฏิเสธไม่เชื่อฟังเขา ดังนั้นเราจึงทำลายล้างพวกเขา แท้จริงในการนี้ย่อมเป็นสัญญาณหนึ่งอย่างแน่นอน แต่ส่วนมากของพวกเขาไม่เป็นผู้ศรัทธา
140; และแท้จริงพระเจ้าของเจ้านั้น แน่นอนพระองค์เป็นผู้ทรงเดชานุภาพ ผู้ทรงเมตตาเสมอ
141; หมู่ชนของซะมู๊ดได้ปฏิเสธบรรดาร่อซูล
142; ขณะที่พี่น้องคนหนึ่งของพวกเขาคือศอและฮ์ ได้กล่าวแก่พวกเขา โอ้พวกท่านไม่ยำเกรงบ้างหรือ?
143; แท้จริงฉันคือร่อซูลผู้ซื่อสัตย์สำหรับพวกท่าน
144; ดังนั้นพวกท่านจงยำเกรงอัลลอฮ์ และเชื่อฟังฉัน
145; และฉันมิได้ขอค่าตอบแทนในการนี้จากพวกท่าน ค่าตอบแทนของฉันมิได้มาจากผู้ใด นอกจากระเจ้าแห่งสากลโลก
146; พวกท่านจะถูกปล่อยให้อยู่อย่างสงบปลอดภัย ณ ที่นี้หรือ?
147; ในสวนอันหลากหลาย และลำธารหลายแห่ง
148; และไร่นา และต้นอินทผลัม ซึ่งกิ่งก้านของมันสุกงอม
149; และพวกท่านสะกัดภูเขาเป็นที่อยู่อาศัยอย่างชำนาญ
150; ดังนั้นพวกท่านจงยำเกรงอัลลอฮ์ และเชื่อฟังฉัน
151; และอย่าเชื่อฟังคำสั่งใช้ของพวกฝ่าฝืน
152; พวกที่บ่อนทำลายในแผ่นดิน และไม่เป็นพวกพัฒนา
153; พวกเขากล่าวว่า แท้จริงท่าเป็นคนหนึ่งในหมู่ผู้ถูกอาคม
154; ท่านมิใช่ใครอื่นนอกจากเป็นสามัญชนเช่นเรา ดังนั้นจงนำมาสักสัญญาณหนึ่ง หากท่านเป็นหนึ่งในหมู่ผู้สัตย์จริง
155; เขากล่าวว่า นี่คืออูฐตัวเมียสำหรับมันดื่มน้ำวันหนึ่ง และสำหรับพวกท่านก็ดื่มน้ำวันหนึ่งที่รู้กัน
156; และพวกท่านอย่าก่อความทุกข์ยากแก่มันมิฉะนั้นการลงโทษในวันอันยิ่งใหญ่จะคร่าพวกท่าน
157; แล้วพวกเขาได้ฆ่ามัน พวกเขาจึงอยู่ในสภาพเป็นผู้เศร้าโศกเสียใจ
158; ดังนั้นการลงโทษได้คร่าพวกเขาแท้จริงในการนี้ย่อมเป็นสัญญาณหนึ่งอย่างแน่นอน แต่ส่วนมากของพวกเขาไม่เป็นผู้ศรัทธา
159; และแท้จริงพระเจ้าของเจ้านั้น แน่นอนพระองค์เป็นผู้ทรงเดชานุภาพ ผู้ทรงเมตตาเสมอ
160; หมู่ชนของลู๊ฏ ได้ปฏิเสธบรรดาร่อซูล
161; ขณะที่พี่น้องคนหนึ่งของพวกเขาคือลู๊ฏได้กล่าวแก่พวกเขาว่า โอ้พวกท่านไม่ยำเกรงบ้างหรือ?
162; แท้จริงฉันคือร่อซูลผู้ซื่อสัตย์สำหรับพวกท่าน
163; ดังนั้นพวกท่านจงยำเกรงอัลลอฮ์ และเชื่อฟังฉัน
164; และฉันมิได้ขอค่าตอบแทนในการนี้จากพวกท่าน ค่าตอบแทนของฉันมิได้มาจากผู้ใด นอกจากพระเจ้าแห่งสากลโลก
165; พวกท่านเข้าหาผู้ชายในหมู่ผู้คนทั้งหลายกระนั้นหรือ?
166; และพวกท่านปล่อยทิ้ง สิ่งที่พระเจ้าของพวกท่านทรงบังเกิดมาสำหรับพวกท่าน คือภรรยาของพวกท่าน แน่นอนพวกท่านเป็นหมู่ชนผู้ฝ่าฝืน
167; พวกเขากล่าวว่า โอ้ลูฏเอ๋ย! หากท่านไม่หยุดยั้ง แน่นอนท่านเป็นผู้หนึ่งที่จะถูกขับไล่ให้ออกไป
168; เขากล่าวว่า แท้จริงฉันเป็นผู้ที่เกลียดยิ่งต่อการกระทำของพวกท่าน
169; ข้าแต่พระเจ้าของฉันขอพระองค์ทรงช่วยฉัน และบริวารของฉันให้พ้นจากที่พวกเขากระทำกัน
170; ดังนั้นเราได้ช่วยเขา และบริวารของเขาทั้งหมดให้รอดพ้น
171; นอกจากหญิงแก่คนหนึ่ง ซึ่งนางอยู่ในหมู่ผู้ถูกทำลาย
172; แล้วเราได้ทำลายพวกคนอื่น
173; และได้ให้ห่าฝนตกลงมาบนพวกเขาดังนั้นฝนของบรรดาผู้ถูกตักเตือนมันชั่วร้ายเสียนี่กระไร!
174; แท้จริงในการนี้ย่อมเป็นสัญญาณหนึ่งอย่างแน่นอน แต่ส่วนมากของพวกเขาไม่เป็นผู้ศรัทธา
175; และแท้จริงพระเจ้าของสูเจ้านั้นแน่นอนพระองค์เป็นผู้ทรงเดชานุภาพ ผู้ทรงเมตตาเสมอ
176; ชาวป่าทึบได้ปฏิเสธบรรดาร่อซูล
177; ขณะที่ชุไอบ์ได้กล่าวแก่พวกเขาว่า โอ้พวกท่านไม่ยำเกรงบ้างหรือ?
178; แท้จริงฉันคือร่อซูลผู้ซื่อสัตย์สำหรับพวกท่าน
179; ดังนั้นพวกท่านจงยำเกรงอัลลอฮ์และเชื่อฟังฉัน
180; และฉันมิได้ขอค่าตอบแทนในการนี้จากพวกท่าน ค่าตอบแทนของฉันมิได้มาจากผู้ใด นอกจากพระเจ้าแห่งสากลโลก
181; จงตวงให้ครบเต็มและอย่าเป็นผู้ที่ขาดพร่อง
182; และจงชั่งด้วยตาชั่งอย่างเที่ยงตรง
183; และอย่าให้ขาดพร่องแก่มหาชนซึ่งสิ่งต่าง ๆ ของพวกเขา และอย่าก่อกวนในแผ่นดินเป็นผู้บ่อนทำลาย
184; และจงยำเกรงผู้ซึ่งบังเกิดพวกท่าน และประชาชาติสมัยก่อน ๆ
185; พวกเขากล่าวว่า แท้จริงท่านเป็นคนหนึ่งในหมู่ผู้ถูกอาคม
186; และท่านมิใช่ใครอื่นนอกจากเป็นสามัญชนเช่นเรา แบะเราคิดว่าท่านเป็นผู้กล่าวเท็จคนหนึ่ง
187; ดังนั้นให้ส่วนต่างๆ จากท้องฟ้า หล่นลงมาบนพวกเรา หากท่านเป็นผู้สัตย์จริงคนหนึ่ง
188; เขากล่าวว่า พระเจ้าของฉันทรงรอบรู้ดียิ่งในสิ่งที่พวกท่านกระทำ
189; พวกเขาได้ปฏิเสธไม่เชื่อเขาดังนั้นการลงโทษแห่งวันเมฆครอบคลุมได้คร่าพวกเขา แท้จริงมันเป็นการลงโทษแห่งวันยิ่งใหญ่
190; แท้จริงในการนี้ย่อมเป็นสัญญาณหนึ่งอย่างแน่นอน แต่ส่วนมากของพวกเขาไม่เป็นผู้ศรัทธา
191; และแท้จริงพระเจ้าขงเจ้านั้น แน่นอนพระองค์เป็นผู้ทรงเดชานุภาพ ผู้ทรงเมตตาเสมอ
192; และแท้จริงมัน เป็นการประทานลงมาของพระเจ้าแห่งสากลโลก
193; อัรรูห์ ผู้ซื่อสัตย์ ได้นำมันลงมา
194; ยังหัวใจของเจ้าเพื่อเจ้าจักได้เป็นผู้ตักเตือนคนหนึ่ง
195; เป็นภาษาอาหรับอันชัดแจ้ง
196; และแท้จริงมันมีอยู่ในคัมภีร์สมัยก่อนๆ
197; และมันมิได้เป็นเครื่องหมายแก่พวกเขาดอกหรือว่า บรรดาผู้มีความรู้ของวงศ์วานอิสรออีลก็รู้ดีในเรื่องนี้
198; และหากว่าเราประทานมันลงมาแก่บางคนในหมู่ชาวต่างชาติ
199; แล้วเขาอ่านมันแก่พวกเขา พวกเขาก็จะไม่เป็นผู้ศรัทธาต่อมัน
200; เช่นเดียวกับเราได้ให้มันเข้าไปในหัวใจของบรรดาผู้กระทำผิด
201; พวกเขาก็จะไม่ศรัทธามันจนกว่าพวกเขาจะได้เห็นการลงโทษอันเจ็บปวด
202; แล้วมัน จะมาหาพวกเขาอย่างกระทันหันโดยที่พวกเขาไม่รู้สึกตัว
203; พวกเขาก็จะกล่าวว่าให้พสกเราได้รับการประวิงบ้างได้ไหม?
204; ทำไมพวกเขาจึงเร่งการลงโทษของเราอีกเล่า?
205; เจ้าไม่เห็นดอกหรือ หากเราให้พวกเขารื่นเริงไปอีกเป็นปี ๆ
206; แล้วสิ่งที่พวกเขาถูกสัญญาไว้ ก็ได้เกิดขึ้นแก่พวกเขา
207; สิ่งที่พวกเขาได้ถูกให้รื่นเริงนั้นจะไม่อำนวยประโยชน์อันใดให้แก่พวกเขา
208; และเรามิได้ทำลายชาวเมืองใด เว้นแต่ได้มีผู้ตักเตือนแก่มันแล้ว
209; เพื่อเป็นข้อตักเตือน และเรามิได้เป็นผู้อธรรม
210; และพวกมารชัยฏอรมิได้นำมีนลงมา
211; และไม่เป็นการเหมาะสมแก่พวกมันและพวกมันก็ไม่สามารถด้วย
212; แท้จริงพวกมันเป็นผู้กีดกัน อย่างแน่นอนจากการฟัง
213; ดังนั้นเจ้าอย่าได้วิงวอนพระเจ้าอื่นใดคู่เคียงกับอัลลอฮ์ มิฉะนั้นเจ้าจะเป็นหนึ่งในหมู่ผู้ถูกทำโทษ
214; จงตักเตือนวงศาคณาญาติของเจ้าที่ใกล้ชิด
215; และจงลดปีก ของเจ้าแก่บรรดาผู้ศรัทธาที่ปฏิบัติตามเจ้า
216; หากพวกเขาฝ่าฝืนเจ้า ก็จงกล่าวเถิดแท้จริงฉันขอปลีกตัวให้พ้นจากสิ่งที่พวกท่านปฏิบัติกันอยู่
217; และจงมอบหมายต่อพระผู้ทรงเดชานุภาพผู้ทรงเมตตาเสมอ
218; ผู้ทรงเห็นเจ้าขณะที่เจ้ายืนอยู่
219; และการเคลื่อนไหวของเจ้าในหมู่ผู้สุญูด
220; แท้จริงพระองค์คือผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงรอบรู้เสมอ
221; ฉันจะบอกแก่พวกท่านไหมว่า? พวกมารชัยฏอนลงมาบนผู้ใด?
222; พวกมันลงมาบนทุกคนที่เป็นผู้โกหกผู้ทำบาปมาก
223; พวกมันจะเงี่ยหูฟัง และส่วนมากพวกมันเป็นผู้โกหก
224; และพวกกวีนั้น พวกหลงผิดจะปฏิบัติตามพวกเขา
225; เจ้าไม่เห็นดอกหรือว่า แท้จริงพวกเขานั้นเร่ร่อนไปในทุกหนแห่ง
226; และแท้จริงพวกเขานั้นพูดในสิ่งที่พวกเขาไม่ทำกระ
227; นอกจากบรรดาผู้ศรัทธาและปฏิบัติความดีทั้งหลายและรำลึกถึงอัลลอฮ์อย่างมาก และตอบโต้ป้องกันหลังจากที่พวกเขาถูกข่มเหง และบรรดาผู้อธรรมจะได้รู้ว่า ทางกลับอันใดที่พวกเขาจะกลับคืนสู่

Pages ( 26 of 114 ): « Previous1 ... 2425 26 2728 ... 114Next »